ผ่านฉลุย! กฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ฉบับแรกของไทยผ่านสภาแล้ว

สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายฉบับแรกของไทย เพื่อคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบการแก้ไขของวุฒิสภาต่อร่างพระราชบัญญัติ ส่งผลให้กฎหมายฉบับแรกของประเทศไทยที่รับรองสิทธิและคุ้มครองวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ใกล้เข้าสู่การประกาศใช้

 

สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบการแก้ไขของวุฒิสภา

สภามีมติเป็นเอกฉันท์ 421 เสียง เห็นชอบต่อการแก้ไขของวุฒิสภาในร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ โดยไม่มีเสียงคัดค้าน

วุฒิสภาได้ผ่านร่างกฎหมายในวาระที่สามเมื่อวันที่ 8 มกราคม โดยมีการแก้ไขถ้อยคำบางประการโดยไม่เปลี่ยนหลักการสำคัญของร่างกฎหมาย หนึ่งในการแก้ไขหลักคือ การเปลี่ยนคำว่า “กลุ่มคน” เป็น “คนไทย” ในคำจำกัดความของกลุ่มชาติพันธุ์

 

การแก้ไขหลักในร่างกฎหมาย

วุฒิสภาได้ระบุว่า กลุ่มชาติพันธุ์หมายถึง ประชาชนไทยที่อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มหนึ่งหรือหลายกลุ่ม มีถิ่นกำเนิดและถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย มีอัตลักษณ์ร่วมกัน และพัฒนาวัฒนธรรม ภาษา วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และความเชื่อ ที่ยึดโยงกับประเพณีหรือประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับสังคมไทย

นอกจากนี้ ในหมวดที่ 5 ของร่างกฎหมาย วุฒิสภาได้เปลี่ยนคำว่า “ธรรมนูญ” เป็น “ข้อบังคับ” ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์

 

ขั้นตอนต่อไป: ส่งขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้

เนื่องจากการแก้ไขของวุฒิสภามีสาระสำคัญ จึงต้องนำกลับมาให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ร่างกฎหมายนี้จะถูกส่งขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศเป็นกฎหมายต่อไป

 

แพทองธาร แสดงความยินดีกับกลุ่มชาติพันธุ์

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ที่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักงาน) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้แสดงความยินดีกับกลุ่มชาติพันธุ์หลังจากร่างกฎหมายผ่านสภา

“วันนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของสังคมไทย เป็นสิ่งที่กลุ่มชาติพันธุ์รอคอยมาอย่างยาวนาน เพื่อรับรองสิทธิทางวัฒนธรรม โอกาส และคุณภาพชีวิตที่มีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจ” แพทองธารกล่าว

 

ส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเท่าเทียม

แพทองธารกล่าวเพิ่มเติมว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยส่งเสริมศักยภาพของกลุ่มชาติพันธุ์โดยอิงจากวัฒนธรรมของตนเอง พร้อมทั้งปกป้องวิถีชีวิตของกลุ่มเหล่านี้

การผ่านกฎหมายฉบับนี้ยังเป็นการส่งสารถึงประชาคมโลกว่า ประเทศไทยให้คุณค่ากับความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างเท่าเทียมและยอมรับทุกกลุ่มอย่างเปิดกว้าง

“ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาติพันธุ์ในหมุดหมายครั้งประวัติศาสตร์ ที่สังคมไทยจะโอบรับทุกกลุ่มวัฒนธรรมในฐานะพลังสร้างสรรค์ของประเทศ” แพทองธารกล่าวเสริม

 

หลักการสำคัญของร่างกฎหมาย

ร่างกฎหมายฉบับนี้ยึดตามบทบัญญัติมาตรา 70 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยมีหลักการสำคัญ 3 ข้อ ได้แก่:

  1. การคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรม: ป้องกันการละเมิดสิทธิ และรับประกันการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของกลุ่มชาติพันธุ์

  2. การส่งเสริมศักยภาพ: สร้างโอกาสในการพัฒนา

  3. ความเท่าเทียม: ให้การปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมต่อทุกกลุ่ม

 

5 ประเด็นหลักในร่างกฎหมาย

  1. สิทธิพื้นฐานและการคุ้มครอง (มาตรา 5–12): รับรองสิทธิและเสรีภาพ ป้องกันการเลือกปฏิบัติตามเชื้อชาติ

  2. กลไกบริหารแบบบูรณาการ (มาตรา 13–20): จัดตั้งคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กลุ่มชาติพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญ และองค์กรพัฒนา

  3. การมีส่วนร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์ (มาตรา 21–31): จัดตั้งสภาคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์แห่งชาติ เป็นศูนย์กลางประสานงานและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้

  4. ฐานข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ (มาตรา 32–36): จัดตั้งฐานข้อมูลระดับชาติ เพื่อการคุ้มครองและส่งเสริม

  5. มาตรการเชิงบวก (มาตรา 37–42): กำหนดพื้นที่จัดการร่วม เพื่อเคารพกฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์พสิทธิของชุมชน และอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

แปลจาก ข่าวต้นฉบับภาษาอังกฤษ